1994 Gibson Roy Smeck Radio Grande Centennial Special
ก่อนจะมาพูดถึงกีต้าร์ตัวนี้ เรามารู้จัก Hawaiian Guitar กันก่อนดีกว่าจากสองคลิปนี้ครับ
ถ้าย้อนกลับไปในยุค 1920 -30 เวลาเค้าถามกันว่าคุณเล่นกีต้าร์อะไร เค้าจะถามว่า คุณเล่น Hawaiian หรือ Spanish guitar
Spanish Guitar ก็คือกีต้าร์ที่เราเล่นกันแบบทุกวันนี้ครับ
Roy Smeck เป้นนักตรีที่โด่งดังในยุคนั้นครับที่เล่นในแนว กีต้าร์วางตักไสลด์ หรือ lap steel guitar
ในตอนแรก Gibson ไม่ได้ผลิตกีต้าร์ชนิดนี้เลย แต่มีการเอากีต้าร์ในทรงปกติมาดัดแปลงเป็น Hawaiian เช่น L-0 ,L1 และ Nick Lucas มาเปลี่ยน Nut และ saddle ให้สูงขึ้นเพื่อเล่น Lap Steel แต่เนื่องจากว่าโครงสร้างกีต้าร์ Spanish ไม่ได้ออกแบบไว้สำหรับแรงตึงสายที่มากเป็นพิเศษ เนื่องจากนักดนตรีในสไตล์นี้มักจะจูนสายเป็นสายเปิด Open Tuning และจะจูนเสียงให้สูงขึ้น ทำให้มีแรงตึงสายมากกว่าปกติ ทำให้กีต้าร์ปกติรับไม่ค่อยไหว และมักจะเกิดความเสียหายกับกีต้าร์บ่อยๆ
ในปี 1929 Gibson เลยออกกีต้าร์ที่เป็น Hawaiian แบบ 2in1 คือสามารถเอาไปดัดแปลงนิดหน่อยก็เล่นแบบปกติก็ได้ด้วย คือรุ่น HG20,22,24 ในตอนนั้นรุ่น HG24 ซึ่งเป็นรุ่นแพงที่สุดราคาขาย $160 ซึ่งแพงกว่า Nick Lucas ที่แพงที่สุดของ Spanish ซึ่งขายอยู่ที่ $125 ซึ่งถือว่ากีต้าร์ที่โคตรแพงในสมัยนั้น
Catalog HG series ในสมัยนั้นครับ
รูปเรียงจากซ้ายไปขวา HG-20, HG-22, HG-24
หลังจากนั้นในปี 1934 Gibson จึงได้ออกวางตลาดรุ่น Roy Smeck มาสองรุ่นครับ ชื่อรุ่นว่า Stage deluxe ไม้หลังเป็น Mahogany ราคา $50 และอีกรุ่นคือ Roy Smeck Radio Grande ไม้หลังเป็น Rosewood ราคา $100
โดยเป็นกีต้าร์ที่มี 12 frets to Body และคอกว้างกว่า 2" และใช้ Peg Head และ Fretboard Inlay ลายFluer De Lis แบบเดียวกับรุ่น Nick Lucas แต่ว่าบอดี้กีต้าร์ไปใช้ทรงเดียวทรง Jumbo ที่ความกว้างลำตัว 16??(ไม่ใช่ทรง Super Jumbo แบบ SJ200 นะครับ)
ทำให้กีต้าร์รุ่น Roy smeck จึงมีความคล้ายคลึงมาทาง Spanish กีต้าร์ เพียงแต่มี คอที่กว้าง และยก Nut และ Sadlle ให้สูงเอาไว้เพื่อเล่นในแบบ Hawaiian ครับ
Catalog Gibson Roy smeck
ซ้าย RS Stage DeLuxe ขวา Radio Grande
Gibson Roy Smeck เลิกผลิตไปในปี1939 และสำหรับรุ่น Stage deluxe เลิกไปในปี 1942 ครับ
ปัจจุบัน Gibson Roy Smeck จึงเป็นที่ชื่นชอบของคนเล่นวินเทจกิ๊บสันครับ แม้จะต้องมีการเอามาCoverted คอกีต้าร์ใหม่ในเล็กลง เพื่อเล่นกันในแบบ Spanish ก็ตาม
มาถึงกีต้าร์ที่ผมจะพูดถึงสักที
1994 เป็นปีที่ครบรอบ 100 ปี ของ Gibson ครับ ทางบริษัทเลยคิดจะออกกีต้าร์ในวาระพิเศษนี้
โดยตั้งชื่อซีรียส์นี้ว่า Centennial Series
ครบรอบร้อยปีทั้งทีทำไรดีหว่า Gibson อยากจะหาดีลเลอรืให้ครบหนึ่งร้อยรายด้วยครับในตอนนั้น
เลยคิดทำกีต้าร์ออกมา 12 รุ่น โดยผลิตรุ่นละ 100 ตัว
โดยให้ออกมาเดือนละหนึ่งรุ่น และทำกล่องไม้โอ๊คพร้อมกระจก อย่างดีเป็นตู้โชว์แจกให้ดีลเลอร์เพื่อโชว์กีต้าร์ทั้งสิบสองตัวครับ ไล่ตามเดือนดังนี้เลยครับ
1929 L-2 (Jan. 1994), 1933 Century (Feb. 1994), 1934 Gibson Jumbo (Mar. 1994), 1934 Roy Smeck Radio Grande (April 1994), 1938 Super Jumbo 200 (May 1994), 1939 Super Jumbo 100 (June 1994), 1940 Jumbo 55 (July 1994), 1948 SJ-200N Aug. 1994), 1950 CF-100E (Sept. 1994), 1951 J-185 (Oct. 1994), 1963 Hummingbird (Nov. 1994), and the J-200 Rose (Dec. 1994).
Gibson Roy Smeck เป็นกีต้าร์ที่ผมอยากได้มากที่สุดครับ มากกว่ากีต้าร์ทุกๆตัว จริงๆผมอยากได้เป็นกีต้าร์วินเทจครับ แต่ราคาแพงจับใจ จังหวะเหมาะพอดี ที่ได้มาพบกีต้าร์ตัวนี้ซึ่งเป็น reissue ตั้งขายอยู่ในร้านขายกีต้าร์ที่นิวยอร์กโดยบังเอิญครับ ผมไม่รอช้าที่จะติดต่อไปในทันที สภาพกีต้าร์ยังใหม่ เจ้าของเก่าคงรักษาไว้ดีมากๆครับทั้งที่เกือบ 18ปีแล้ว ตัวนี้ออกในเดือน เมษา 1994 ครับ ของผมเป็นตัวที่ 74
สเปคไม้เป็น Spruce/ Rosewood ครับ มีการตอกฝังแผ่นเหล็กลงด้านหลัง Headstock ด้วยป้าย centennial Special April 1994 ไว้ด้วย โทนเสียงกีต้าร์ตัวนี้ ค่อนข้างใหญ่ เสียงเบสแบบ Punch Bass ไม่ดังค้างนานเกินไปเป็นเบสสไตล์กิ๊บสันครับ เด่นกลาง เสียงแห้งสากหน่อยๆ และเนื้อเสียงหนา ดังกังวานครับ ถูกใจใช่เลยครับ
ลองมาดูรูปกันครับ
ลองฟังเสียงดูครับ หาคลิปตัวที่เป็น Reissue ไม่เจอเลยจำเป็นต้องทำเองครับ