Fuzz - Distortion - Overdrive

[LittleNomad]

Fuzz - Distortion - Overdrive มันให้เสียงแตกต่างกันยังไงครับ?

ผมเว้นวรรคเรื่องดนตรีไปนาน เลยตามยุคสมัยไม่ค่อยทัน... ยุคก่อนตอนที่ผมเล่นอยู่ มันมีแ่ต่ Fuzz เลยงง ๆ ครับ...

[yodchula]

Overdrive กับ Distortion นี่มีลักษณะเสียงไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ต่างกันที่ Gain ครับ
ถ้า Gain เยอะมันก็จะเป็น Distrotion ถ้าน้อยมันก็ไปทาง Overdrive

จะหา Sound Overdrive ฟังก็ลองฟังเพลง Blue ครับ หรืออย่าง Eric Clapton เองหลายๆเพลงก็ใช้เสียง Overdrive ซะส่วนใหญ่

เสียง Distortion ก็ฟังได้จาก วง Rock มากมายครับเช่น Van Halen, Mr.Big, Metalica

ส่วน Fuzz ก็ลองฟังเพลงของ Jimi Hendrix อย่างเพลง Purple Haze
แล้วอีกคนก็ Eric Johnson คนนี้ก็ขา Fuzz ครับ

[LittleNomad]

ขอบคุณน้าYodchuฯ - - ที่พึ่งพาหาความรู้จริง ๆ ...

ว่าแต่ว่า Effect ของน้าแต่ละกล่องงามจริง ๆ

ตัวบนของยี่ห้ออะไรครับ หน้าตาหน้าเอามาเหยียบจริง ๆ!

อ้อ...ขอถามต่ออีกนิดครับว่า แล้วมีของยี่ห้อไหนบ้างที่จับทั้ง Fuzz-Distortion-Overdrive มาบรรจุรวมกัน...

[yodchula]

Effect ตัวสีแดงๆชื่อ Fetto Deluxe Diaper Rash ครับ เป็นเสียง Distortion แนว Marshall

ส่วนสองตัวข้างล่างคู่กันซื้อ Landgraff ตัวซ้ายรุ่น MO-D Distortion เป็นเสียงแตกแบบ Distortion - Fuzz
ส่วนตัวขวา ชื่อ Clean Boost ก็ตามชื่อมันเลยครับ เอาไว้ Boost จ้า



Effect ที่จับเอาสารพัดเสียงมารวมกัน คงไม่มีใครเก่งไปกว่า Line6 แล้วครับ
เจ้านี่ไง LINE6 DM4



เจ้าตัวนี้เป็น Effect Modeler ชนิดรวมเสียงแตกทั้งหลายที่ดังๆไว้ด้วยกันครับ
http://line6.com/stompboxmodelers/dm4.html

[LittleNomad]

ผมเข้ิาไปฟังตัวอย่างเสียง DM4 Distortion Modeler ใน noiseon.com น่าสนทีเดียว...

ขอจู้จี้ถามน้าYodchuฯ อีกเรื่องเลยนะ... ตอนนี้ Sustainer ตัวไหนน่าสนครับ...

[yodchula]

ถามมาเลยจ้า ตอบได้ก็จะตอบ

Sustainer นี่เรียกกันว่า Compressor ดีกว่าครับ
เพราะการ Compress จะทำให้ได้ Sustain ที่ยาวขึ้น

ตอนนี้ในบ้านเรามี Compressor อยู่หลายตัวเลยครับ (ขอพูดถึงแต่ที่มีขายในบ้านเรานะครับ)
เริ่มจากก้อนยอดนิยมอย่างBOSS CS-3 คนนิยมใช้ ราคาไม่แพง คุณภาพใช้ได้
ขยับขึ้นมาหน่อยก็เล่น MXR DYNA COMP, Electro Harmonic White Finger หรือจะไปลองของดีหรูหราอย่าง
T-rex Comp Nova, Menatone JAC Compressor, Maxton CP-9 Pro+ COMPRESSOR,
Keeley Compressor, Analog Man mini Bi-comp มีมากมายยยยยยยยยยยยยยยยยย เลยจ้า

[.::.pOoH.::.]

น้ายอดจุ๊นี่ น่ารักจริงๆ

[LittleNomad]

ใช่เลยครับน้าpOoH... น้าYodchuฯ น่ารักมาก ๆ....

[merlot]

น้าอ้วนจะหา Compressor!

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น หน่อยนะครับ คือ ในฐานะที่เป็น Rock & Roll boy คนหนึ่ง ผมไม่ค่อยชอบ Effect พวก Compressor ซักเท่าไร่อะครับ คือ Effect พวก Compressor สำหรับผมแล้วหลักการทำงานของมัน คือการ "เกลี่ยเสียง" กล่าวคือเกลี่ย หัวเสียงไปให้หางเสียงทำให้หางเสียงยาวขึ้น แต่สิ่งที่ตามมาคือ ความเป็นความเป็นธรรมชาติของเสียงกีต้าร์จะหายไป ยิ่งเวลาไปพ่วงกับเสียงแตกแล้วทำให้ความโหด ความดิบเถื่อนลดลง

ปัจจุบัน การเพิ่มหางเสียงกีต้าร์ของ นักดนตรี Rock & Roll เขานิยม "Boost" เสียงเสียมากกว่าครับ โดยใช้ Effect พวก Over Drive หรือพวกที่มีเสียงแตกแบบอุ่นๆน้อยๆมาช่วย วิธีการก็คือ ต่อแบบนี้อะครับ

Guitar>Overdrive>เสียงแตกที่ท่านชื่นชอบ>Amp

การต่อแบบนี้ OverDrive จะมีหน้าที่ช่วยขับเสียงทำให้เสียงมีพลังมากขึ้นและหางเสียงยาวขึ้นด้วย ตัว OverDrive เนี่ยปรับเสียงแตกน้อยๆนะครับหรือบางคนปิดเลย เพราะหน้าที่ของมันคือการเพิ่มพลังเสียงไม่ใช่ให้เสียงแตก

ถ้าจะเปรียบกัน
- หางเสียงการใช้ Compressor มันจะเปรียมหมือนการต่อหางเสียงโดยใช้เนื้อเสียงจาหัวเสียงมา เหมือนตัดเนื้อตรงโน้นมาต่อตรงนี้ จะทำหางเสียงได้ยาวกว่า
- หางเสียงจากการ Boost เสียง เปรียบเหมือนการเพิ่มพลังขับดันที่เสียงกีต้าร์ ทำให้หางเสียงยาวออกไป

พวก Compressor ได้ถูกนำมาใช้ด้วย ประโยชน์อย่างอื่น
- บางคนใช้เอามาเสริมตอนเล่น Technic พวก "Tapping" หรือ "จิ้ม" คือเวลาจิ่มแล้วความดังเบาของเสียงไม่เท่ากัน น้ำหนักมือไม่เที่ยง เอา Compressor มาช่วยเกลี่ย
- บางคนใช้ตอนเล่น Rythm Clean Sound น้ำหนักมือไม่เที่ยง เอา Compressor มาช่วยเกลี่ยอีก ทำให้การเล่น Perfect มากขึ้น

โดยส่วนตัวผมว่าก็ไม่เหมาะกับดนตรี Rock อะครับคือมันทำให้ขาดความดิบ ของ ดนตรี Rockไป

ทั้งหมดนี้ผมหวังว่าซักวัน น้า ยอด จะทำ Work Shop ไห้สมาชิกดูกัน

[LittleNomad]

ขอบคุณน้าmerlot ที่ช่วยมาแสดงทัศนะและแนะนำเทคนิค...