+++จะเล่นกีตาร์ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร+++

[Maton_1]

นั่นไง?มีคนเห็นแล้วจนได้?.ที่ผมอยากเห็นและอยากได้ยินที่สุด ไม่ใช่ สาเหตุ หรือปัญหา หรือผลลัพธ์ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ "ข้อเสนอแนะ" ขอบคุณครับ คุณ Ken@g จริง ๆ ....ผมสร้างคำถามเพื่อใช้เปรียบเทียบแนวทางของกลุ่มคน เขียนว่าคล้าย ๆ ทำบ้าน AF 2 หลัง หรืออะไร ทำนองนั้น...แต่มีคนคิดไปถึงเรื่องวิจัย...ผมก็พยายามฟัง ๆ ตามมาเรื่อย...งงว่าบ้าน AF แบบกีตาร์กับโลกร้อนมันเป็นงานวิจัยด้วยเหรอ...ผมขอบคุณหลายคนที่ให้กำลังใจและรอฟังสรุป แต่คงเป็นสรุปนอกงานวิจัยนะครับ เพราะมันเป็น AF จริง ๆ
....เวลามีกีตาร์ 2 ตัว หรือมากกว่า มาให้คุณลอง คุณ จะทำไงครับ...คุณเลือกเปรียบเทียบโดยเปลี่ยนสายให้เหมือนกัน ตั้งสายให้ตรงกัน เล่นเพลงเพลงเดียวกัน แล้วใช้หูของ(คุณ) คนเดียวกันเล่นหรือเปล่าครับ
ถ้าไม่เชื่อใจตัวเอง ก็ส่งต่อให้เพื่อนเล่น แล้วก็ได้คำตอบว่าดีหรือไม่ดีเพราะเปรียบเทียบกัน...จริงไหม
....มีงานวิจัยของศาสตาจารย์ที่สรุปผลออกผิดพลาดเยอะแยะ ผมอ่านเจอออกบ่อย...แต่มีงานวิจัยของอัจฉริยะที่ดูเพียงข้อมูลเบื้องต้นก็เห็นถึงคำตอบที่ถูกแล้ว สามารถทดสอบยืนยันได้ในภายหลังอีกด้วย ยกตัวอย่าง นาย วัตสัน กับ คลิ๊ก ที่ค้นพบว่าดีเอ็นเอเกาะกันเป็นเกลียวคู่ โดยเค้าอาศัยเพียงภาพถ่ายจากรังสีเอ็กซ์ เพียงอย่างเดียว หรือแม้แต่อัลเบิร์ก ไอซไตล์ ที่คิดทฤษฎี สัมพันธภาพมวลกับพลังงาน ซึ่งตอนแรกเหล่าศาตาจารย์ อ่านแล้ว ไม่เข้าใจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จนตอนหลังถึงออกมายอมรับกัน...
...ที่ว่าตั้งคำถามไม่ตรงกับคำตอบ...รู้ได้อย่างไรครับ...เหมือนถ้ามีคนถามคุณว่า ไก่กับไข่อะไร มาก่อนกัน
...อุ๊ย...ไม่เอา...ยากไป...ถามว่า เหตุกับผล อะไร มาก่อนกันและอย่างไร....ดีกว่าครับ....เนื่องจากเห็นว่าทีมนี้ชอบพูดเรื่องเหตุกับผลกันมาก...สิ่งหนึ่งที่คุณเข้าใจตรงกับผมและหลาย ๆ คน คือ การเล่นกีตาร์เกี่ยวกับโลกร้อนไม่มากก็น้อย แต่มีส่วนสำคัญน้อย นั่นแหล่ะครับ ผมก็เห็นด้วยแบบนั้นครับ แต่ที่คุยกันตั้งนานก็เพราะพวกเราดันเล่นกีตาร์กันทุกคนแล้วหลังจากผมถาม ทุกคนก็ช่วยกันตอบครับ...เพราะเห็นว่าสำคัญและสัมพันธ์กับตนเอง...
....ระยะทางพิสูจน์ม้า...การเวลาพิสูจน์คน...เพราะคนที่เดินทางรอบโลกก็กลับมาที่จุดเริ่มต้นที่ออกเดินทางไปอยู่ดีโดยมีประสบการณ์ติดกระเป๋ามา...แต่เวลาสิครับมันเดินไปไม่มีย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้น...วัดคนจึงใช้เวลาและการทำความดีอย่างต่อเนื่องยาวนานครับ ไม่ใช่ระยะทางวัดคน นะครับตามความเห็นส่วนของผม....
....ยินดีรับฟังทุกคำตอบนะครับ..."จะเล่นกีตาร์ช่วยลดโลกร้อน ได้อย่างไร :-)

[Maton_1]

อันนี้ไม่เกี่ยวกับกีตาร์และโลกร้อน แต่เห็นว่ามีประโยชน์เพื่อนผมส่งมาให้ ประโยครองสุดท้ายเพื่อนเติมให้นะครับ ต้อง credit ให้เพื่อนเป็นคนคิด ผมเขียนบรรทัดสุดท้ายอันเดียว...

มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31 , 000 ล้านดอลล่าร์

ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา :

1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์

3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลัง
แต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือ
กำแพงล้อม

4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน

5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัว
ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัท ในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึง
ซีอีโอ ของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัด
ประชุม หรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ

7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1

8 ) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดู
โทรทัศน์

9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่า
ตน เองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อ
บิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลาย
เป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์

10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า : จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัว
คุณเอง

ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง

มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม 1 มื้อ เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน
ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็
ต้องตาย เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมีกีตาร์มากมายกี่ตัวก็ตาม สุดท้ายก็ เล่นได้ทีละตัวเหมือนกัน

ใครมีบ้านหลายหลัง รถยนต์ หลายคัน กีตาร์หลายตัว ก็ใช้ได้ทีละหลังทีละคันที่ละตัวเหมือนกัน

.... มองทะลุวัตถุนิยม และเ ห็นความหมายที่แท้จริงของชีวิต

[Maton_1]

อันนี้ไม่เกี่ยวกับกีตาร์และโลกร้อน แต่เห็นว่ามีประโยชน์เพื่อนผมส่งมาให้ ประโยครองสุดท้ายเพื่อนเติมให้นะครับ ต้อง credit ให้เพื่อนเป็นคนคิด ผมเขียนบรรทัดสุดท้ายอันเดียว...

มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31 , 000 ล้านดอลล่าร์

ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา :

1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์

3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลัง
แต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือ
กำแพงล้อม

4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน

5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัว
ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัท ในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึง
ซีอีโอ ของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัด
ประชุม หรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ

7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1

8 ) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดู
โทรทัศน์

9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่า
ตน เองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อ
บิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลาย
เป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์

10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า : จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัว
คุณเอง

ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง

มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม 1 มื้อ เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน
ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็
ต้องตาย เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมีกีตาร์มากมายกี่ตัวก็ตาม สุดท้ายก็ เล่นได้ทีละตัวเหมือนกัน

ใครมีบ้านหลายหลัง รถยนต์ หลายคัน กีตาร์หลายตัว ก็ใช้ได้ทีละหลังทีละคันที่ละตัวเหมือนกัน

.... มองทะลุวัตถุนิยม และเ ห็นความหมายที่แท้จริงของชีวิต

[Maton_1]

อ้าวทำไมมันขึ้นทีละสองอันเลยหล่ะ...ขออภัยสลับอัน
...."ใครมีบ้านหลายหลัง รถยนต์ หลายคัน กีตาร์หลายตัว ก็ใช้ได้ทีละหลังทีละคันที่ละตัวเหมือนกัน"...ผมเขียนเอง

[Therock]

อ้อ... อีกเรื่องหนึ่ง ผมเป็นคนชอบ "สีดำ" มาั้ตั้งแต่ไหนแต่ไร
เมื่อคืนไปบ้านเพื่อน ก็ใส่เสื้อยืดสีดำ
เคยไปเดินท่อม ๆ ในซาฮาร่า ก็ใส่เสื้อยืดสีดำ
หลายครั้งที่ไปเร่ร่อนย่านหิมาลายัน ก็ใส่เสื้อสีดำ
กีต้าร์หลายตัุวที่มี ก็สีดำ (มีสีขาวกะเขาอยู่ตัวเดียว, ที่เหลือเป็นพวกไม่ทาสี เห็นเนื้อไม้ชัด ๆ)
นี่กะว่าจะซื้อกีต้าร์ใหม่ ก็เล็งสีดำ

พูดง่าย ๆ คือ ผมชอบสีดำ ซึ่งสวมใส่แล้วก็เย็นสบายดีเหมือนกันนะครับน้าpOoH
แต่ผมไม่ชวนน้าpOoH หรือใคร ๆ มาชอบสีดำเหมือนผมหรอก...
เพราะอย่างน้อยที่สุด ผมยังไม่มีทฤษฎีแน่ชัดว่า สีดำ ดีจริง
ผมจึงต้องเคารพในเอกสิทธิ์ความคิดความชอบของน้าpOoH และคนทั้งหลาย ที่อาจชอบสีอื่น ๆ

ผมขอเถียงคอเป็นลูกชิ้นเอ็นกันเลยทีเดียวครับ เพราะเท่าที่จำได้
แฟนน้าอ้วนที่เจอที่หัวหิน บ้านน้าปู๊ด ข๊าว ขาว ครับ

ฮริ้วววววววววววววววว !!!!!!!!!!

[Maton_1]

ขอบคุณครับ เรื่อง เขียนหนังสือผมคงไม่ถนัด ผมตั้งใจว่าถ้าจะทำอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถ้าเป็นนักเขียนก็ต้องเป็นนักเขียนที่ดี แต่ผมไม่มีพรสวรรค์เอาเลย....เอาว่าผมจะตั้งใจเล่นกีตาร์ให้ดีที่สุดก็แล้วกันครับ...
....ภายในโบสถ์แห่งหนึ่ง เด็ก ๆ ยืนเถียงกันใหญ่ว่า พระอาทิตย์สีอะไร เพราะทุกคนมองผ่านหน้าต่างที่ทำจากกระจกสีที่ไม่เหมือนกัน บางคนว่าสีแดง บางคนว่าสีเขียว บางคนว่าสีขาว บางคนว่าสีดำ พอบาทหลวงท่านเดินเข้ามาก็บอกว่าพวกเธอ ออกไปข้างนอกก่อน พ่อจะบอกให้ว่าพระอาทิตย์สีอะไร...
...ที่กลางแจ้งเด็ก ๆ ทุกคนต่างเห็นพระอาทิตย์เป็นสีขาวเจิดจ้ากันหมด...หลวงพ่อก็ยิ้มแล้วพยักหน้าว่า...
...จงมองไปที่ความเป็นจริง อย่ามองผ่านกระจกสีอีก...มีอยู่อีกคนนึงเจ้าของสำนวน แมวสีอะไรก็จับหนูได้ทั้งนั้น..ก็หลักการเดียวกัน...ทีนี้จะเสื้อสีอะไร กีตาร์สีอะไร มันก็เป็นไปตาม function ของมัน..เท่านั้น คนที่ทุกข์ใจ สุขใจก็คือคนที่เล่น คนที่สวมใส่เท่านั้น บางทีเราเดินไปตามถนน บังเอิญเสื้อเรายับเราก็ทุกข์ใจกันอยู่อย่างนั้น..แต่จริง ๆ คนที่มองเห็นเราเหล่านั้นไม่ได้ทุกข์หรือสุขที่เสื้อที่เราใส่เลย เขาไม่สนใจเราด้วยซ้ำ...
....เรื่องการเทน้ำลงทะเล...มันเป็นข้อเท็จจริงทางโลก...เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะคิดแบบภูมิปัญญาหรือวุฒิปัญญามันจะได้คำตอบเดียวกัน คือ ระดับน้ำไม่สูงขึ้น ....
....ผมเคยเขียนแล้วว่าวุฒิปัญญาและภูมิปัญญาสามารถเลือกใช้ในสถานการณ์ที่ต่างกันในเรื่องงานเฉพาะทางและในเรื่อง ทั่ว ๆ ไปหรือไกลตัว...เพราะหวังผลในการแก้ปัญหาที่ต่างกัน...จะเห็นได้ว่าบางครั้งปัญญาทั้งสองต้องใช้ร่วมกันจึงจะเกิดสติปัญญา...
...ผมเคยดูวีดีโอ Jimmy hendrix เล่นกีตาร์ตอนเสพยาเล่นคอนเสิรต์และตอนที่เขาไม่เสพยาในสตูดิโอ...ปรากฏว่าเขาเล่นได้ไพเราะทั้งคู่..แสดงว่ายาเสพติดไม่ทำให้อะไร ต่อมิอะไรดีขึ้น...สำหรับผมแล้ว Jimmy เป็นคนเก่งที่โลกยกย่องแต่ต้องสูญเสียโอกาสตลอดกาลเพราะยาเสพติดมาพรากเขาไปจากพวกเรา...ผมคงอยากเก็บชีวิตและสุขภาพไว้เพื่อชื่มชมในดนตรีมากกว่าครับ...

[gong_bee_gees]

ท่าทางน้า LittleNomad จะชอบสูบบุหรี่กับดื่มเหล้าเป็นพิเศษนะครับ เห็นย้ำหลายทีเหลือเกิน ผมอ่านไปอ่านมาเลยเกิดอารมณ์รู้สึกอยากสูบ 'ใบยาคาริเบี้ยน', เริ่ดใหญ่, เริ่ดเล็ก บ้างแล้วสิครับ แถมมี นมเหล้า- Baileys ของไอริช อีกด้วย!!! ว้าว!!! อยากลองจังครับ ไม่ทราบจะขอลองได้อย่างไรครับเนี่ย ไม่ทราบว่าน้าจะกรุณาให้ผมลองบ้างรึเปล่าครับเนี่ย ถ้ายอมให้ลองผมก็ต้องขอขอบคุณมากเลยนะครับ แล้วเดี๋ยวค่อยนัดกันไปลอง

[gong_bee_gees]

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณน้า LittleNomad
มากๆเลยนะครับสำหรับน้ำใจอันงดงามของน้า แต่น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถไปร่วมงามมีตติ้งได้ เพราะว่ากว่าผมจะกลับไปถึงเมืองไทยก็ตั้งวันที่ 7 เดือนกรกฎาคมแล้ว ไปไม่ทันครับน่าเสียดายจริงๆ เลยอดใบยาคาริบเบี้ยนเลย น่าเสียดายจริงๆ ไม่เป็นไร เอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน ดื่มเหล้าให้อร่อยนะครับ สวัสดีครับ

[povation]

บนโลกใบนี้
มีแต่มิตรแท้ และมิตรที่ถาวร
...ไม่มีแต่ศัตรูแท้ และศัตรูที่ถาวร...

ฤา.เหตุเป็นเพราะ คนเรามี "จริต" ที่แตกต่างกันไป

โลกเราจะเป็นอย่างไรหนอ ถ้าทุกคนมี "จริต" เหมือนกันทุกคน????

จืดชืดไงครับ...น้าสาวิ่ง

[Maton_1]

ผมกำลังจะสรุปผลเรื่องบ้าน AF ทั้งสองหลัง?เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคว่า กระทู้ของทีมที่ 1 เวลาใครเข้ามาตอบตำแหน่งของกระทู้ก็ไม่สามารถเลื่อนขึ้นไปที่หน้าแรกของเวปบอร์ดให้ชวนมองได้ ซึ่งต่างจากกระทู้ของทีมที่ 2 ที่ทำได้ ดังนั้นหากผมนำกระทู้ของทีมที่ 1 ไปแปะใหม่เพื่อในบอร์ดของทีมที่ 1 มันก็จะเป็นการถามซ้ำซาก (ผมเคยบอกทีมที่ 1 ครั้งนึงว่า กำลังทำบ้าน AF) และเป็นการเอาเปรียบทีมที่ 2 ดังนั้น ผมขอใช้เกณฑ์แบบนี้ ในการสรุปเรื่องนี้ เนื่องจากหลังจากผมตั้งคำถามแล้วผมเข้ามาตอบหรือชักชวนกระทู้ทั้งสองแล้ว ปรากฏว่าทีมที่ 2 เท่านั้น ที่ตอบสนองอย่างต่อเนื่องยาวนาน ส่วนทีมที่ 1 หยุดการตอบสนองไปนานแล้ว แม้ผมจะเขียนถามเพิ่มเติมว่ารอฟังความคิดเห็นอยู่นะครับ?.แต่ก็ยังไรการตอบสนอง...ผมจึงต้องขอหยุดเก็บข้อมูลของทีมที่ 1 แต่เพียงเท่านี้นะครับ
?.. แต่ทีมที่ 2 ผมจะใช้วิธีการเดียวกัน คือ ตราบเท่าที่มีคนมาตอบกระทู้ผมยังถือว่าผมได้ยินเสียงสะท้อน การแสดงความเห็นจึงยังไม่จบ ผมจึงหยุดเก็บข้อมูลไม่ได้ ดังนั้นหากกระทู้ของที่มที่ 2 ไม่มีการเข้ามาตอบต่อจากที่ผมเขียนไว้ ภายใน 48 ชั่วโมง ผมจะขอหยุดเก็บข้อมูล?คล้ายกับว่าผมตะโกนไปแล้วไม่เจอวัตถุที่อยู่ข้างหน้าทำให้ไม่ต้องรอเสียงสะท้อนหรือคำตอบอีก?แล้วถ้าครบ 48 ชั่วโมง เมื่อไหร่?.ใจเย็น ๆ ขอเวลาผมพิมพ์หน่อยแล้วจะกลับมาสรุปให้ฟังกัน...

อันนี้ไม่เกี่ยวกับโลกร้อน แต่เกิดกับโรคร้อน...
Note. 1) คนที่เชื่อริเริ่มประกาศว่าตนเองเชื่อ แต่มีคนบางคนฟังแล้วปฏิเสธว่าตนไม่เชื่อและประกาศหลายครั้งว่าตนไม่เชื่อ แต่คนที่เชื่อยังคงเดินหน้าในแนวทางที่เชื่อต่อไป
2) คนที่ไม่เชื่อไม่เคยริเริ่มประกาศว่า "ตนไม่เชื่อ" แต่พอคนที่เชื่อมาริเริ่มประกาศว่าเชื่อ คนที่ไม่เชื่อก็ต่อต้านว่าตนไม่เชื่อและปฏิเสธหลายครั้งว่าตนไม่เชื่อ และยังบอกคนอื่นว่าตนไม่เชื่อนะ แต่ก็ไม่ต้องไม่เชื่อตามตน...
น่าแปลกใจว่า คนที่(เชื่อ) กลับพูดถึงคำว่า "เชื่อ" น้อยกว่าคนที่(ไม่เชื่อ)...ทั้งที่เชื่อหรือไม่เชื่อก็บอกกันตั้งแต่คำตอบแรกแล้ว...แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ในใจของคนนั้น ๆ ทั้งสองคนด้วย...จะย้ำคิดย้ำทำกับคำพูดว่า "เชื่อ" หรือ "ไม่เชื่อ" ก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา
"จะเล่นกีตาร์อย่างไร (ไม่) ช่วยลดโลกร้อนอย่างไร" ผมถือโอกาสช่วยริเริ่มแทนให้เลย
และคงไม่มีใครตรงเกินไปมานั่งนับ คำว่า "เชื่อ" ใน note อันนี้ของผมใช่ไหม...