สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ ห่างหายกันไปนานมากๆ ผมไม่ได้เอาอะไรมา Update ในเวปมาหลายเดือน
วันนี้เริ่มว่างอีกครั้ง หลังจากติดพันธกิจมากมาย :_D
ก็ขอทะยอยเอามาลงให้พี่น้องชมกันจ้า เริ่มด้วยกล่องเลย ฮุๆๆๆ
"Storm Box ที่เกือบจะทุกคนมี แต่มันไม่เคยส่งเสียง?!?!?!?!"
มีใครเดาออกมั่งว่ามันคืออะไร???
มันเป็นของ Sonic Research ใครเคยได้ยินชื่อนี้บ้าง???
เอาล่ะถ้าใครเดาออก ว่า "Storm Box ที่เกือบจะทุกคนมี แต่มันไม่เคยส่งเสียง" คืออะไรก็คงจะร้อง อ๋อ หลังจากเห็นภาพ
.
.
.
.
.
.
.
ใช่แล้วมันคิือ Tuner ยังไงล่ะ เครื่องตั้งเสียงที่ทุกคนมี แต่มันไม่เคยส่งเสียงของมันเองเลย
เจ้าตัวนนี้มันมีชื่อว่า ST-200 Stomp Box Strobe Tuner จากค่าย Sonic Research inc.
กำเนิดใน USA
** ภายในกล่อง มี Tuner, User Manual และ แผ่นปิดฝาหลังกันลื่น **
ว่ากันด้วยลักษณะภายนอกซักหน่อย ก็มาตราฐานสากล
-ต้องมีปุ่ม on/off switch มีช่อง input และ output
-ด้านข้างสามารถเสียบ Power Supply ชนิด DC 9V แบบมาตราฐาน Boss ได้
-ด้านหน้าหน้าปัดเป็นไฟ LED สว่างชัดเจน
-มีปุ่มปรับ Mode, Calibrate และ Flat (เดี๋ยวจะว่ากันอีกทีว่าทำอะไรได้มั่งจากปุ่มเหล่านี้)
อีกด้านของ Tuner เป็นช่อง Output
ตัวถังของ ST-200 Stomp Box Strobe Tuner ออกแบบมาได้แข็งแรง และดูดีมากๆ
ขนาดของมันยังเล็กกระทัดรัด เหมือน Effect ของ MXR เลย
คุณสมบัติที่น่าสนใจของเจ้า ST-200 Stomp Box Strobe Tuner
-True bypass แน่นอน เอาใจคนซีเรียสเรื่อง Tone
-Muted output เมื่อ Tuner กำลังทำงาน จะทำกันตัวสัญญาณไม่ให้เสียงออก
-Chromatic and guitar/bass modes ระบบ Tuner สำหรับ Guitar และ Bass และมีระบบ Chromatic ด้วย
-Fully programmable for alternate tunings and temperaments ปรับแต่งค่าสำหรับการ Tuner นอกเหนือมาตราฐานได้สบายๆ
-Extreme accuracy: ±.02 cents guaranteed ความเที่ยงตรงระดับเทพ!!
มันมีความผิดพลาดแค่ ± 0.02 Cents เท่านั้น เท่าที่ผมเห็น Tuner มา เจ้าตัวนี้ เทียงตรงที่สุดแล้ว
-Rugged die-cast aluminum case ตัวถังทำจาก Aluminum
-Made in USA ผลิตในประเทศอเมริกา
มาดูๆ หน้าปัดกัน
-แถวด้านล่างสุดเป็นช่องแสดง Mode ที่ใช้ในปัจจุบัน มีทั้งหมด 6 MODE
CHRM = Chromatic
GUIT = Mode สำหรับ Guitar 6 สาย
BASS = Bass 5 และ 4 สาย
CST1 2 และ 3 เป็น Custom Tune เราสามารถปรับได้แบบละเอียดสุดๆเลยล่ะ
-ไฟด้านซ้ายบนกับขวาบนคือ ตัวบอกว่า โน้ต + หรือ - 50 Cents
-ด้านซ้ายล่าง A4 หมายถึง กำลังใช้ A4 นอกเหนือไปจากมาตราฐาน A4= 440.00 Hz
-ด้านขวาล่าง Flat หมายถึง กำลัง Drop เสียงลงจากมาตราฐาน
*** การใช้งาน ***
เจ้า ST-200 มีความไวมากๆ คือมันตอบสนองโน้ตได้ไวแบบจรวจเลยครับ
ดีดปุ๊บ มาทันที และมัน Detect โน้ตได้แม่นยำและว่างไวมาก ไม่มีอาการอืด เอ๋อๆให้เห็นเลย
*** การแสดงผล ***
ไฟสัญญาณวงกลมรอบตัว E (กำลังดีดโน้ตตัว E อยู่) จะหมุนทวนเข็นนาฬิกาเมื่อโน้ตเพี้นต้ำ
และจะหมุนตามเข็นนาฬิกา เมื่อโน้ตเพี้ยนสูง เราสามารถอ่านค่าได้อย่างง่ายดาย
และเมื่อมันหยุดหมุน แสดงว่า โน้ตนั้นตรงแล้วครับ
สรุปว่า ผมพอใจกับเจ้า ST-200 ตัวนี้มากๆ เป็น Tuner ที่ไวที่สุดตั้งแต่ผมได้ใช้ Tuner มาเลย
มี Switch เป็น True Bypass ให้หายห่วงด้วย แบต 9V 1 ก้อนสามารถใช้งานได้นานกว่า 12 ชม.
ถ้าตั้งสายวันละ 5 นาที ก็ใช้ได้นาน 5 เดือนเลยล่ะ
มาดูปุ่ม MODE บ้าง ใช้งานง่่ายๆครับ ก็แค่กดปุ่มข้างซ้ายเพื่อให้ Mode เลื่อนไปทางซ้าย
และกดปุ่มข้างขวา เพื่อให้ MODE เปลี่ยนไปทางขวา แค่นั้นเอง
ส่วน ปุ่ม CAL ก็คือ Calibrate นั้นเอง มันสามารถตั้ง A4 ให้เป็น 300.0 ถึง 599.9 Hz. เลย!!
ไม่รู้จะเปลี่ยนอะไรได้มากมายขนาดนั้น แต่ผมคิดว่าไม่มีใครเค๊าใช้หรอก ฮิๆๆๆ
วิธีใช้ก็ กดปุ่ม CAL ค้างไว้ แล้วก็กด Switch on ก็จะเข้าสู่ Calibrate ครับ
ปุ่ม Flat เอาไว้ Drop เสียงครับ สามารถลงได้ 6 semitones. (ยกตัวอย่างเช่น สายหก สามารถปรับลงจาก E เป็น Bb ได้เลย)
เวลาใช้งาน ก็กดปุ่ม Flat ค้างไว้ แล้วกด Switch On ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=OPU8ckQ_D6M
เชิญชม Clip VDO ดูกัน ว่า Turbo Tuner ทำงานได้รวดเร็วแค่ไหน
และมันแม่นยำมากๆ ตัว Detect Pitch มันก็ทำงานไวมากด้วย
ลองดูท้ายๆ Clip ขนาดเล่นด้วย Mute Technic มันยังจับเสียงได้เลยครับ
ขอบคุณที่ติดตามชมจ้าาาาา