ออกจะไร้สาระแต่ก็..เอาเสียหน่อย บอร์ดจะได้ไม่เหงา
จริงๆ ไม่อยากปะภาพให้เกะกะบอร์ด แต่มันเป็นนิทานประกอบภาพเลยไม่รู้จะทำไง (บางคนอาจจะบอกว่า ง่ายจะตาย..ก็ไม่ต้องเล่าสิ 555) เอาเป็นว่า เล่าๆ ไปเหอะ
นางนวลเจ้าเอย ภาค 1 : จากป่า...
![[Image: P1000140_Spottedgreenfieldm.jpg]](http://i301.photobucket.com/albums/nn67/myakira/AUS%2001%20The%20arrive%20and%20Glenelg/P1000140_Spottedgreenfieldm.jpg)
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเรามักจะพบนกนางนวลอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับชายทะเล บางคนบอกว่า นางนวลชอบกินปลา ก็ต้องมาจับปลาแถวนั้นสิ ของมันเห็นๆ กันอยู่ ... อืม..นะ..ของมันเห็นๆ กันอยู่ แล้วที่ไม่เห็นล่ะ ?
นิทานกล่อมเด็กความยาวสองคืนจบ ได้กล่าวถึงนางนวลในอีกแง่มุมหนึ่งว่า นานมาแล้ว นางนวลเคยอาศัยอยู่ในป่า เพราะรักชอบพออยู่กับแมกไม้และสายธาร ยามรักยังหวานนั้น ป่าก็เอื้อเฟื้อทุกอย่างให้กับนางนวล นางนวลจึงได้จับปลาในแม่น้ำบ้าง จิกลูกไม้ทานบ้าง พักพิงในเงาไม้บ้างตามประสา เป็นเช่นนั้นมาหลายปี โดยที่ไม่เคยบินออกนอกเขตของตนไปสำรวจที่ไหน เพราะไว้ใจว่าป่ามอบความรักให้ตนเพียงผู้เดียวเท่านั้น
วันดีคืนดี ป่าคุยกับนางนวลว่า ป่าไม่อยากให้นางนวลเสียใจ ป่าเป็นห่วงความรู้สึกของนางนวล แต่ป่าให้นางนวลอยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะเมื่อปีก่อนป่าได้พบกับนกอีกพวกหนึ่ง เมื่อรู้สึกดีต่อกันจึงให้มาอยู่ในป่าด้านโน้นและตอนนี้ก็ต้องการให้เข้ามาอยู่แทนที่นางนวล เนื่องจากตรงนี้อุดมสมบูรณ์มากกว่า ป่ายังบอกอีกว่านกเหล่านั้นสู้นางนวลไม่ได้เลย นางนวลเก่งกว่าและเข้มแข็งกว่า ต้องดูแลตัวเองได้แน่ๆ ส่วนนกพวกนั้นเปราะบาง บินก็ไม่เร็ว สายตาก็ไม่ดี ป่าจึงต้องดูแลด้วยตัวเอง แม้นางนวลจะขอร้องอย่างไรป่าก็ไม่เปลี่ยนใจ เพราะว่าป่าหมดรักนางนวลเสียแล้ว
![[Image: P1010425_Patiencem.jpg]](http://i301.photobucket.com/albums/nn67/myakira/AUS%2007%20Sydney%20and%20around/P1010425_Patiencem.jpg)
ทีแรก นางนวลคิดว่าป่าไม่รักนางนวลก็ไม่เป็นไร นางนวลขออยู่เลียบชายป่าเพื่อคอยดูแลอยู่ห่างๆ ก็ได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากปากของป่า ?เจ้าก็ไม่ใช่นกดิบดีอะไร? ทำให้นางนวลเสียใจมาก ได้แต่โทษว่าตัวเองคงไม่ดีจริงๆ ป่าถึงได้พูดอย่างนั้น ความรู้สึกดังกล่าวค่อยๆ เกาะกุมจิตใจของนางนวลมากขึ้นทุกวัน จนกลัวว่าถ้าตนยังอยู่ใกล้กับป่าต่อไป คงมีแต่จะทำให้ป่าแปดเปื้อน
นางนวลโบยบินไปอย่างไร้จุดหมาย หรือถ้าจะมี ก็มีเพียงจุดหมายเดียว คือ การไปให้ไกลจากป่ามากที่สุด และหวังว่ามันจะไกลพอที่จะปกป้องผืนป่าอันบริสุทธิ์จากความไม่ดีของตนเอาไว้ได้ เพราะนางนวลยังรักป่าอย่างหมดหัวใจ ..นี่ถ้านางนวลเกลียดป่าไปเลย อาจจะเสียใจและบอบช้ำน้อยกว่านี้
![[Image: P1000216m.jpg]](http://i301.photobucket.com/albums/nn67/myakira/AUS%2002%20The%20habour%20and%20the%20water/P1000216m.jpg)
นางนวลบินมาไกลมาก ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ตรงชายฝั่ง ที่ซึ่งน้ำตาของนางนวล จะได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับฟองคลื่น เพราะที่นี่มีเพียงทรายกับทะเลเท่านั้น เมื่อพิจารณาแล้วว่าทะเลไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจนางนวล นางนวลจึงใช้ชีวิตอยู่ริมชายฝั่งนับแต่นั้นมา
เรื่องราวของนางนวลยังไม่จบ แปลว่าคุณยังมีนิทานสำรองไว้กล่อมเด็กต่อได้อีกหนึ่งคืน
คำเตือน : นิทานไร้สาระมาก ไม่รู้คิดได้ไง ห้ามฟังเกินวันละสองตอน โปรดสังเกตคำเตือนบนฉลาก
นางนวลเจ้าเอย ภาค 2 : ...สู่ทะเล
![[Image: DSC_0782m.jpg]](http://i301.photobucket.com/albums/nn67/myakira/AUS%2006%20Princess%20Highway%20and%20Kiama/DSC_0782m.jpg)
จากวันเป็นเดือน ... จากเดือนเป็นปี ... นับตั้งแต่วันที่นางนวลหันหลังให้ผืนป่า การใช้ชีวิตเคียงใกล้ท้องทะเล ทำให้นางนวลเริ่มผูกพันกับสิ่งรอบกายที่ได้อาศัยพำนักพักพิง และหลงรักท้องทะเลโดยไม่รู้ตัว
![[Image: P1000185_Imalonem.jpg]](http://i301.photobucket.com/albums/nn67/myakira/AUS%2002%20The%20habour%20and%20the%20water/P1000185_Imalonem.jpg)
วันหนึ่งนางนวลเดินเลียบชายฝั่ง ทะเลซัดเข้าหาแทบเท้าแล้วไหลคืนท้องสมุทรไป นางนวลยืนรอให้ทะเลซัดเข้าหาตนอีก กลายเป็นว่านางนวลรอเก้อ วันต่อๆ มา นางนวลก็เจอเหตุการณ์แบบเดิม นางนวลไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเท่าไร ทะเลจึงจะเข้ามาใกล้ การรอคอยนั้นเป็นทุกข์ แล้วนางนวลก็นึกขึ้นมาได้ว่า 'ฉันเองก็มีปีกนี่นะ ทำไมฉันไม่บินเข้าไปหาทะเลเสียเองล่ะ' นางนวลคิดว่าถ้าทำแบบนี้ ตนเองจะกลายเป็นผู้เลือกและน่าจะมีความสุขมากขึ้น เพราะได้เจอกับสิ่งที่ตนรัก ฟังดูน่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ว่า...
![[Image: P1010422_Flyingm.jpg]](http://i301.photobucket.com/albums/nn67/myakira/AUS%2007%20Sydney%20and%20around/P1010422_Flyingm.jpg)
นางนวลบินเข้าไปหาทะเลทุกวัน วันแล้ว...วันเล่า... นางนวลเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่าง 'ฉันปรับตัวเข้าหาทะเลแล้ว แต่ทะเลยังเป็นเหมือนเดิม' วันไหนที่ทะเลอยากจะเข้ามาหานางนวล ก็สาดซัดมาใกล้ๆ สักคราหนึ่ง วันที่เหลือ ไม่ว่านางนวลจะบินเข้าไปใกล้สักเท่าไร ทะเลกลับทำเหมือนมองไม่เห็น หรือบางที...ทะเลก็กำลังรื่นเริงอยู่กับนกและปลาอื่นๆ
นางนวลกลับมายืนที่ริมหาดอีกครั้ง มองทะเลอย่างตรึกตรอง และมองเข้าไปในใจตน นางนวลถามตัวเองว่า เหตุแห่งทุกข์คืออะไร วันที่นางนวลยืนรอทะเลซัดเข้าหาอย่างผู้ถูกเลือก นางนวลก็เป็นทุกข์ ทุกข์ดังกล่าวเกิดจากการปล่อยให้ชีวิตถูกลิขิต เกิดจากการรอคอย การคาดหวังว่าจะเป็นผู้ถูกเลือก และผิดหวังเมื่อไม่ได้ถูกเลือก
ในอีกทางหนึ่ง แม้นางนวลเป็นฝ่ายบินเข้าไปหาทะเลด้วยตัวเองแล้ว นางนวลก็ยังเป็นทุกข์อยู่ดี เพราะทะเลซัดคลื่นเข้าหานางนวลแค่บางครั้งบางครา มิใช่ตลอดเวลาอย่างที่นางนวลต้องการ ทุกข์ครั้งนี้จึงเกิดจากการดิ้นรนไขว่คว้า เกิดจากความอยากได้ไม่สิ้นสุด เกิดจากการยึดมั่นถือมั่นว่าทะเลจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตามที่ใจของนางนวลคิด
![[Image: P1000226_Seekingm.jpg]](http://i301.photobucket.com/albums/nn67/myakira/AUS%2002%20The%20habour%20and%20the%20water/P1000226_Seekingm.jpg)
นางนวลเริ่มมองเห็นแล้วว่า ทุกสิ่งที่ประกอบกันทำให้เกิดทุกข์นั้น หนึ่งเกิดจากจิตที่ไม่รู้พอ อีกหนึ่งเกิดจากการไม่รู้จัก 'ละ' และ 'วาง' หนำซ้ำยังปรุงแต่งให้เหมือนดังใจคิด แต่จิตกลับไม่ได้รู้อย่างถ่องแท้ในสิ่งที่เป็น หากนางนวลอยากเป็นผู้เลือก ไยไม่เลือกที่จะอยู่อย่างไร้ทุกข์ ไร้สุข แต่เลือกที่จะอยู่อย่างมีปัญญาเล่า ? แน่ละว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจและปฏิบัติได้ในฉับพลันทันที แต่ถ้าหากว่านางนวลค่อยๆ เรียนรู้ สักวันหนึ่ง นางนวลก็จะเข้าใจว่า สุขและทุกข์นั้นมีไว้ให้เห็น แต่มิได้มีไว้ให้เป็น
นางนวลสยายปีกโบยบินอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การออกบินเพื่อไล่ตามทะเลอีกต่อไปแล้ว เมื่อปราศจากอวิชชา นางนวลจึงเริ่มประจักษ์แก่สายตาว่าท้องทะเลนั้นงดงามเพียงใด
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าทำงานหนักเกินไป เดี๋ยวเพี้ยน !!!