Thread Rating:
  • 0 Vote(s) - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
เรื่องเล่าเเบบหัทยา(ตอนพิเศษ) ขอเเสดงความรำลึกถึง...คุณลุงท่านหนึ่งที่จากไป....
Author Message
maprang Offline
Junior member
**

Posts: 26
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 28 Nov 2009
Reputation: 3
#8
RE: เรื่องเล่าเเบบหัทยา(ตอนพิเศษ) ขอเเสดงความรำลึกถึง...คุณลุงท่านหนึ่งที่จากไป....
สวัสดีค่ะ ...ตอนแรกเกือบจะเดินก้าวขาออกจากบ้านหลังนี้แล้ว เนื่องจากปวดตาอย่างหนักกับการแพ่งหน้าจอเป็นเวลานาน แต่ก็ต้องสะดุจกับการโปรยหัวข้อ "เรื่องเล่าเเบบหัทยา(ตอนพิเศษ) ขอเเสดงความรำลึกถึง...คุณลุงท่านหนึ่งที่จากไป.... " ทำให้ต้องหยุดอ่าน และขออนุญาติเสริมอีกนิดว่า

คุณสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ที่สวมหมวกได้หลายใบ และปฎิบัติหน้าที่ขณะใส่หมวกแต่ล่ะใบอย่างสมบูรณ์
พอทราบข่าวการเสียชีวิตของคุณสมัคร ภาพในหัวก็ชัดขึ้น เป็นภาพผู้ชายสูงวัยกำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็ง นั่งอยู่ที่สนามบิน เพื่อรอรถมารับไปรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาล และภาพเบื้องหน้าคือกลุ่มคนที่กำลังด่าทอ สาบแช่ง ในภาพข่าวคุณสมัครได้แต่นั่งเฉยๆ ก้มหน้าบางครั้งคราว แรงใจในวินาทีนั้นคงเป็นหญิงชรา อายุรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งกุมมือให้กำลังใจไม่ห่าง ภาพนั้นสะท้อนได้หลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหยิบแง่มุมไหนมาใส่สมอง จึงขอหยิบแง่มุมเรื่องของ สตรีที่อยู่เคียงข้างคุณสมัคร จนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ณ วันที่ธรรมชาติเรียกคืน

จึงขอหยิบยกบทความนี้มาฝาก เพื่อจะเป็นอีกแง่มุมที่จะได้ทำความรู้จัก ผู้ชายที่ชื่อว่า .... สมัคร สุนทรเวช ....


" คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก มีอุปนิสัยค่อนข้างเก็บตัว และเป็นข่าวน้อยมาก
ในแวดวงสังคม แบบฉบับผู้อยู่หลังบ้านที่ดี ในขณะที่สามีเป็นข่าวบนหนังสือพิมพ์โดยตลอด

สมัคร เคยพูดถึง ภรรยา ไว้ในหนังสือ การเมืองเรื่องตัณหา ซึ่งเป็นหนังสืออัตชีวประวัติสมัคร สุนทรเวช โดย myst-man นำมาโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ พันทิป ว่า ไปพบรักกับภรรยาที่มหาวิทยาธรรมศาสตร์และการเมือง โดยขณะนั้นตนเองเรียนอยู่คณะนิติศาสตร์ ส่วนคุณหญิงสุรัตน์เรียนอยู่ทีคณะบัญชี

...ตอนที่ผมโตเป็นหนุ่มขึ้นมาแล้ว ผมก็รู้จักชอบ รู้จักรักผู้หญิงเหมือนกับชายหนุ่มทั้งหลาย และสำหรับชายที่บังเอิญมาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย คนที่ไปรักไปชอบนั้นก็เห็นจะไม่พ้นคนที่เรียนหนังสืออยู่สำนักเดียวกัน เพราะยังงั้นหลังจากที่ได้มีโอกาสรู้จักมักคุ้นมีเพื่อนมีฝูงทั้งใกล้ทั้งไกลมากมายอยู่พักหนึ่งแล้ว คนที่ใกล้ชิดสนิทสนมจนถึงขั้นจะตกลงปรงใจกันก็เป็นชาวท่าพระจันทร์ด้วยกันนั่นแหละ ผมเรียนกฎหมาย คุณเธอเรียนบัญชี...

...ถึงตอนนี้ผมอยากจะขออนุญาตเล่าลงไปให้ถึงรายละเอียดสักนิดเพื่อให้ ไอ้บรรดาคอลัมนิสต์ เลวชาติ ทั้งหลายมันได้รู้กันว่าคนอย่างผมนั้น เริ่มก่อร่าง สร้างตัว ขึ้นมาจากความไม่มีอะไรโดยไม่ต้องทุจริตคดโกงอย่างที่พวกมันหลับหูหลับตาคิดกันอย่างไร...

หลังจากที่รักใคร่ชอบพอกันแล้ว สมัคร ก็ตัดสินใจขอหมั้น คุณหญิงสุรัตน์ ก่อนที่จะไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ โดยสัญญากันเป็นหมั่นเหมาะว่าหากเรียนจบกลับมาแล้วค่อยแต่งงานกัน

...ผมตกลงกันว่า เรียนหนังสือเสร็จแล้ว ผมจะทำงานเก็บเงิน เพื่อให้คู่หมั้นผมบินไปแต่งงานกันที่โน่น

แต่แล้วด้วยความที่ไม่ต้องการให้เกิดการสิ้นเปลือง จากเดิมที่วางไว้ว่าจะไปทำพิธีแต่งงานที่สหรัฐฯ ก็ได้เปลี่ยนแผนมาแต่งที่ญี่ปุ่นแทน เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยทั้งคู่จัดพิธีแต่งงานที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีท่านอุปทูตเป็นประธาน เมื่อปี 2511

...ท่านผู้อ่านคงจะนึกสงสัยว่าทำไมผมสองคนถึงได้ดิ้นรนอยากจะออกมาแต่งงานเมืองนอก คำตอบที่บอกได้โดยไม่ต้องอาย ก็คือเราไม่มีเงิน เพราะเราเคยนั่งคิดกันแล้วว่าในฐานะที่เคยเป็นชาวมหาวิทยาลัยที่ออกจะเป็นคนมีเพื่อนฝูงมากทั้งคู่ ถ้าแต่งงานแล้วมีเลี้ยงดูกันอย่างพอสมควรในเมืองไทย ค่าใช้จ่ายเห็นจะไม่หนี 4-5 หมื่นบาท เงินขนาดนั้นผมจะไปหากันมาจากที่ไหน แต่ถ้าเลือกไปแต่งงานที่สถานทูตในญี่ปุ่นตอนที่ผมเดินทางกลับจากเรียนหนังสือ คู่หมั้นผมเพียงแต่เสียค่าเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-โตเกียว ราคา 7,300 บาท โดยวิธีซื้อแบบบินก่อนผ่อนที่หลัง เพียงเดือนละ 300 กว่าบาท เท่านั้นเอง... "
และปิดตำนานรักฉบับชั้นประหยัดของ คุณสมัคร สุนทรเวช อย่างสวยงาม
ร่างกายถูกส่งกลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ความรักยังคงอยู่ตลอดไป

จงอย่ามองแต่ส่วนด้อย จงมองส่วนเด่น และสิ่งที่ทำเหลือไว้ ท่านเป็นผู้ที่มีสุนทรีย์ภาพ ในการดำเนินชีวิต
ภาพบรรยากาศที่ คุณHattaya111 บรรยายมา ณ ถนนวิทยุยามเช้า เป็นเช่นนั้นจริงๆ บังเอิญว่าเคยทำงานอยู่ บนถนนเส้นนั้นอยู่หลายปี จึงซึมซับบรรยากาศนั้นได้ค่ะ แอบมีรอยยิ้มมุมปากทุกครั้งที่บังเอิญไปเจอรถคันนี้กำลังขับผ่าน พร้อมเสียงเพลงลอยตามลม แว่วมา

ขอให้จากไปอย่างสงบ หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการต่อสู้กับโรคมะเร็ง
สิ่งที่เหลือไว้คือ ชื่อ และความดีของแต่ล่ะช่วงชีวิต ที่คนในครอบครัว ลูกหลาน และคนทั่วไปควรจดจำ
เพราะอย่างน้อย ท่านคือสามีและพ่อที่ดีของลูก
ในการดำเนินชีวิตส่วนตัวท่านคือ FAMILY MAN ตัวจริงในความรู้สึก

ตอนแรกว่าจะตอบนิดเดียว แต่ตัวอักษรมันชักชวนกัน ให้พิมพ์ต่อ ก็เลยตอยยาวเลย
ต้องขออภัยคุณHattaya111ด้วยค่ะ หวังว่าคงจะไม่ว่ากัน และขอบคุณมากค่ะสำหรับพื้นที่เล็กๆ ที่ให้แลกเปลี่ยนความคิดตรงนี้....นานๆที่จะเห็นหัวข้อที่โปรยเรื่องประเภทนี้ก็อดชื่นชมในความคิดของผู้นำเสนอไม่ได้
ปกติถือ บัตรเหลืองเข้ามานั้งอ่านเรื่องต่างๆ ของชาวบ้าน ครั้งนี้ได้บัตรถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ขอใช้สิทธิ์กันหน่อย ถือโอกาสมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันค่ะ

?" อย่ากลัวที่จะเดินไปข้างหน้า อย่าบ้าฟังคำคนสอพลอ อย่าขอจากคนที่เขาไม่พร้อมจะให้ อย่าอยากได้ในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์ " ...
28-11-2009, 17:33
Find Like Post Reply


Messages In This Thread
RE: เรื่องเล่าเเบบหัทยา(ตอนพิเศษ) ขอเเสดงความรำลึกถึง...คุณลุงท่านหนึ่งที่จากไป.... - by maprang - 28-11-2009, 17:33

Forum Jump:


Users browsing this thread: 3 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication