ค้นหามาให้เพิ่มเติม
แม้เวลาจะผ่านพ้นมา 50 ปีในวันนี้ แต่สีสันของมันยังสดใหม่และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
บอสซา โนวา เป็นรูปแบบหนึ่งของจากบราซิล มาจากส่วนผสมระหว่างจังหวะเต้นรำท้องถิ่น แซมบ้า กับ คูล แจ๊ส ซึ่งได้รับความนิยมจากหนุ่มสาวชาวอเมริกันและแถบละตินอเมริกาในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960
บอสซา โนวา มีสีสันทางดนตรีที่กลมกลืนระหว่างลักษณะของ Rhythm และ Harmony
Rhythm ที่มี เอกลักษณ์ Syncopation อย่างนุ่มนวล ผสมกับ Harmonyหรือการวางรูป คอร์ด กับเมโลดี้ ที่เปิดทางให้แก่การ Improvisation ความต่อเนื่องของคอร์ดสละสลวย การใช้คอร์ดที่เราไม่คุ้นเคย เช่น 13 th ,7th with flat 5 ,flat 9 ฯลฯ
(((Syncopation (ซิงโคเพชั่น) การเน้นในส่วนจังหวะรอง)))
บอสซา โนวา เป็นคำภาษาโปรตุเกส หมายถึง "คลื่นลูกใหม่" (New Wave)
เริ่มโดยการสร้างสรรค์ของ อันโตนิโอ คาร์โลส โจบิม (Antonio Carlos Jobim) และ จาว จิลแบร์โต (Joao Gilberto) ทั้งคู่โด่งดังขึ้นจากเพลง Chega da Saudade ในปี 1958 ถือว่า เป็น เพลงในแนว Bossa nova เพลงแรก !!
เพลง "Chega de Saudade" นี้มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า "No More Blues"
Joao Gilberto
จากนั้น เมื่อ ชาร์ลี เบิร์ด (Charlie Byrd) นักกีตาร์ ชาวอเมริกัน เดินทางไปบราซิลในฐานะทูตทางวัฒนธรรมของรัฐบาลอเมริกัน เขาได้นำดนตรีรูปแบบใหม่นี้กลับมาบันทึกเสียงในสหรัฐอเมริกาด้วย อัลบั้ม Jazz Samba ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 1962 ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น และเปิดโอกาสให้ศิลปินเพลงชาวบราซิลตัวจริง-เสียงจริง ได้มีโอกาสเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ตและบันทึกเสียง อีกหลายต่อหลายคน ในสหรัฐอเมริกาในเวลาถัดมา
บอสซา โนวา มานิยมในบ้านเรา ก็ราวๆเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา กับกระแสเพลงชิลล์เอาท์ (ศัพท์แสลงที่เรียวเพลงแนวฟังสบายๆ ชิลล์ๆ นั่นแหละ)นำโดยวงดนตรีอย่าง "Armchair " เรื่อยมาถึง "Bossa Blossom "(คัฟเวอร์เพลงฮิตของแกรมมี่ในสไตล์ "บอสซาโนวา"ด้วยฝีมือการโปรดิวซ์ของ เจษฎา สุขทรามร หรือ โอ๋ ดูบาดู ) และวงดนตรีอีกหลายต่อหลายวง
แม้กระทั่ง กั้ง มือกีตาร์แห่ง กรู๊ฟไรเดอร์ส หรือในอีกฉายาว่า "กั้งสโนวา" ก็ถือเป็นผลผลิตหนึ่งที่มาจากดนตรีแขนง
แต่ก็ซาๆไปเป็นพักๆ เพราะ ยุคสมัยนี้ รายการวิทยุบ้านเรา และสื่อต่างๆ ก็มีนำเสนอแนวเพลงดีๆ ให้ฟังกันมาก
คนฟังวิทยุ น่าจะเคยผ่านหูเพลง ตุ๊กตาหน้ารถ มาตั้งแต่ต้นปีนี้ เพลงนี้เป็นผลงานของ Lula อดีตนักร้อง ในกลุ่ม 2 become 1?เพลงนี้น่าจะหยิบเอาท่วงทำนอง กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ มาจากเพลง The Girl From Ipanema
อย่าลืมไปตามหารากเหง้าที่แท้จริงของ บอสซา โนวา มาฟังกันต่อ นะ