6 โมงเช้าของวันจันทร์...ฉันงัวเงียตื่นขึ้นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก ดังสนั่นหวั่นไหว ไปทั่วห้อง
เฮ้อ..ต้องตื่นอีกแล้วสินะ...ยังนอนได้ไม่เท่าไหร่เลย...
ฉันหดตัวเข้าไปซุกในผ้าห่มนวมผืนโต ยังนิ่งเฉยกับเสียงนาฬิกาที่ส่งเสียงเตือนซ้ำว่า...ตื่นได้แล้ว!!!
ไม่อยากลุกจากที่นอนเลย...ทำไมมันหนาวอย่างนี้นะ...หนาวจนไม่อยากก้าวขาออกจากผ้าห่ม...
มองออกไปนอกหน้าต่าง หิมะขาวโพลนเต็มไปหมด ไม่มีวี่แววของแสงอาทิตย์ตอนย่ำรุ่งเลย
คิดอยู่ในใจ รอให้ตะวันขึ้นแล้วค่อยลุกจากที่นอนดีกว่า....
จริงๆ แล้วเป็นข้ออ้างของคนอู้...เพราะไม่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นมาตั้งนานแล้ว....
จะมีก็แต่แสงสว่างรำไรที่บอกเวลาไม่ได้ว่ากี่โมง
ฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่นะ นึกโมโหตัวเองในใจ....Helsinki เมืองที่มีแต่ความมืดและความหนาวอันแสนโหดร้าย!
เป็นความโชคร้ายที่ฉันดันได้มาเรียนในช่วงเวลาที่ไม่อำนวย...
เป็นช่วงฤดูหนาว ที่หนาวซะ สะใจ แถมด้วยบรรยากาศที่อึมครึมตลอดทั้งวัน....
ไม่มีแสงแดดให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว
จำได้ว่าตอนที่อยู่เมืองไทย เป็นคนที่ไม่ชอบแดดเลย เพราะมันร้อนจนไม่อยากเดินไปไหน
แต่ตอนนี้ถ้าเลือกได้...ฉันขอกลับไปใช้ชีวิตแบบร้อนๆ จะดีกว่า...
ร้อนๆ หมายถึงอากาศนะคะ...ไม่ใช่คน..
เนื้อตัวฉันเต็มไปด้วยตุ่มเล็กๆ ที่เกิดจากอากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป
ผิวหนังปรับสภาพไม่ทันโดยเฉพาะบริเวณลำตัว
ฉันเกาตุ่มเล็กๆ พวกนั้นจนเลือดซิบๆ...ยิ่งเกาก็ยิ่งคัน โอ๊ย! คัน คัน คัน
ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมหมาขึ้เรื้อน มันถึงตัวแดงเถือกไปทั้งตัวอย่างนั้น...
อารมณ์คงประมาณเดียวกันกับฉันตอนนี้
.
7 โมงเช้า เถลไถลอยู่บนที่นอน ตั้งชั่วโมงเต็มๆ....ฉันทำไปได้ยังไงเนี่ย
รีบกระโดดผึง ลุกอย่างที่นอน...ไม่มีเวลามาอารัมภบทอะไรได้อีก
ตารางเรียนชั่วโมงแรกของวันนี้ 9 โมงเช้า....
แต่นั่นไม่สำคํญเท่ารถเมล์เที่ยวจะต้องไปให้ทันคือ เที่ยว 7.45 น.
หลายคนคงคิดว่า...เวลาเหลือๆ ตั้ง 45 นาที แต่จริงๆ แล้วมีเวลาอาบน้ำ แต่งตัว ทานอาหารเช้าแค่ 25 นาที
เพราะต้องเผื่อเวลาเดินเท้า จากอพาตเมนท์ไปที่จุดจอดรถประจำทางอีก ประมาณ 20 นาที...
ถ้าไปไม่ทัน นั่นหมายความว่า ต้องรอรถเที่ยวต่อไป อีกครึ่งชั่วโมง...
ยืนรอรถครึ่งชั่วโมงกลางหิมะอันหนาวเหน็บ...แค่คิด ฉันก็ถอดใจแล้ว..อยากย้อนเวลาได้จัง
จะไม่โอเอ้ตั้งแต่เมื่อ หนึ่งชั่วโมงที่แล้ว!!
.
.
7.05 น. ยังรอคิวอยู่หน้าห้องน้ำ เพราะรูมเมทสาวชาวฝรั่งเศสยังเอ้อระเหยอยู่ในห้องน้ำ
วันนี้เจ้าหล่อนไม่รีบเพราะมีเรียนช่วงบ่าย...
ฉันร้องถามออกไป เธอบอกว่า มาได้ครึ่งทางแล้ว...โอย! ปาดเหงื่อ
เห็นท่าวันนี้จะได้อดอาหารเช้า ทำโทษตัวเองโดยปริยาย....
7.30 น. พร้อมออกสตาร์ท เหลือเวลาแค่ 15 นาที...น่าจะยังพอลุ้น ถ้าใส่เกียร์หมาแบบ Non Stop!
คว้า walkman คู่ใจออกเดินทาง แค่ก้าวแรกที่ก้าวพ้นออกมาจากประตูอพาตเมนท์ แทบอยากจะถอยหลังกลับ...
ลมพัดเอาความเย็นมากระทบใบหน้า มันหนาวเหน็บไปจนถึงขั้วหัวใจ
ฉันกระชับเสื้อ Overcoat ให้แน่นยิ่งขึ้น...มองดูตัวเองเหมือนข้าวต้มมัดแช่แข็ง ยังไงยังงั้น
สาวเท้าเร็วๆ เพื่อจะได้ไปถึงที่หมายอย่างที่ตั้งใจ เสียงเพลงโปรดจาก Walk Man ดังก้องอยู่ในหู...
http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=5581
Who knows how long I've loved you
You know I love you still
Will I wait a lonely lifetime
If you want me to, I will.
For if I ever saw you
I didn't catch your name
But it never really mattered
I will always feel the same.
Love you forever and forever
Love you with all my heart
Love you whenever we're together
Love you when we're apart.
And when at last I find you
Your song will fill the air
Sing it loud so I can hear you
Make it easy to be near you
For the things you do endear you to me
Oh, you know, I will
I will.
ไม่มีเวลาสุนทรีย์กับสิ่งรอบข้าง..แม้แต่เพลงโปรดของตัวเอง
ตอนนี้ฉันเริ่มวิ่งแล้ว...แต่มันช่างลำบากยากเย็นซะเหลือเกิน เพราะตอนนี้หิมะทั้งหนา ทั้งลื่น...
ฉันวิ่งไปด้วยความหวังว่า ขอให้รถเมล์เที่ยวที่รอคอยมาช้ากว่าที่ควรจะเป็น...
เหงื่อเม็ดโป้งๆ เริ่มซึมตามหน้าผาก...ไม่น่าเชื่อ หนาวขนาดนี้ยังเหงื่อซึมได้...
.
.
.
ในที่สุด...ฉันก็มาถึงป้ายรอรถประจำทาง
.....หัวใจแทบสลาย...มองเห็นท้ายรถเมล์คันนั้นส่งยิ้มทักทาย เหมือนจะบอกว่า...
...เสียใจด้วยนะ มาช้าไปนิสนึง !
.
.
.
.
I will...เสียงเพลงโปรดยังคงบรรเลงต่อไป เหมือนเป็นเพื่อนคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ
ฉันพูดกับตัวเอง...เป็นบทเรียนครั้งต่อไป ว่า...
I will not be late anymore!!